Category

สถานที่ท่องเที่ยวเกาหลี

Category

 

Everland7
เที่ยวเกาหลีด้วยตัวเอง
นั้นไม่ยากอย่างที่คิด นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปยังที่ต่างๆ ได้สะดวกสบายทั้งในกรุงโซลและนอกเมือง แม้กระทั้งการไปเยือนสวนสนุกระดับโลกอย่าง “เอเวอร์แลนด์” (Everland) ก็สามารถไปได้ง่ายๆ ด้วยตัวเอง

Everland9

Everland2

เอเวอร์แลดน์ (Everland) ถือว่าเป็นสวนสนุกกลางแจ้งที่ใหญ่ที่สุดของเกาหลี ตั้งอยู่ที่เมืองยงอิน (Yongin) โดยมีบริษัทซัมซุงเป็นเจ้าของ เอเวอร์แลนด์นั้นถือว่าเป็นเหมือน “ดิสนีย์แลนด์เกาหลี” เลยก็ว่าได้ แถมถูกนิตยสาร Forbes จัดอันดับให้เป็น 1 ใน 4 สวนสนุกยอดนิยมของโลก ในที่ ค.ศ. 2005 โดยแต่ละปีจะมีนักท่องเที่ยวมาเยือนสวนสนุกแห่งนี้กว่า 9 ล้านคน

ที่ตั้งของสวนสนุกเอเวอร์แลนด์นั้นเหมือนสวนสนุกในฝันจริงๆ เพราะอยู่ท่ามกลางหุบเขาและธรรมชาติ สวยเหมือนในเทพนิยาย ด้านในถูกแบ่งออกเป็น 5 โซนใหญ่ๆ ให้เลือนเล่นกันได้ตามใจชอบ ทั้ง เครื่องเล่นหวาดเสียวเช่น รถไฟเหาะไม้ที่สูงที่สุดในโลก สวนดอกไม้ที่มีดอกไม้นานาชาติสลับสับเปลี่ยนมาออกดอกให้นักท่องเที่ยวถ่ายรูปกันได้ตลอดทั้งปี อีกทั้งเอเวอร์แลนด์ยังมีสวนสัตว์ซาฟารีอีกด้วย และสัตว์ที่เป็นดาราดังของที่นี้คือเจ้าตัว Liger (ไลเกอร์) หรือลูกแฝดผสมระหว่างสิงโตเพศผู้และเสือเพศเมีย ที่ถือว่าเป็นลูกแฝดไลเกอร์คู่แรกในโลกที่ต้องมาดูที่เอเวอร์แลนด์ที่เดียวเท่านั้น นอกจากนี้อีกหนึ่งสัตว์ที่นักท่องเที่ยวพากันชื่นชอบในความน่ารักคือ เจ้าหมีที่สามารถฟังคำสั่งและสื่อสารกับคนขับรถได้อย่างน่าทึ่ง

Everland5

Everland6

โซนต่างๆ มีดังนี้

  • Global Fair – โซนนี้จะตกแต่งด้วยรูปแบบสถาปัตยกรรมที่ผสมผสานทั้งเก่าแก่อย่างเมโสโปเตเมีย เรอเนสซองส์ ไปจนถึงแบบโมเดิร์น โซนนี้จะเหมาะกับเด็กๆ และครอบครัว
  • American Adventure – โซนนี้จะจำลองประเทศสหรัฐอเมริกาย้อนกลับไปตั้งแต่ 500 ปีก่อน สมัยโคลัมบัสค้นพบประเทศอเมริกาใหม่ๆ เรื่อยมาจนกระทั้งยุคเฟื่องฟูของดนตรีร็อคแอนด์โรส ของ เอลวิส เพรสลีย์ ทั้งโซนจะมีดนตรีประกอบเป็นจังหวะสนุกสนานเร้าใจเหมาะกับวัยรุ่นและผู้ใหญ่ที่ชอบเครื่องเล่นผาดโผน
  • Zootopia – โซนซาฟารีและสวรรค์ของคนรักสัตว์ โซนนี้จะมีเครื่องเล่นสำหรับเด็กๆ มาสนุกสนานกับสัตว์และเครื่องเล่น รวมทั้งยังมีรถชมสวนสัตว์ที่พานักท่องเที่ยวใกล้ชิดกับสัตว์ต่างๆ  และที่เพิ่งเปิดล่าสุดเมื่อเดือนเมษายน 2013  ที่ผ่านมา คือส่วน “Lost Valley” ที่นักท่องเที่ยวสามารถชมสัตว์ต่างๆ ด้วยพาหนะสะเทิ้นน้ำสะเทิ้นบก ที่วิ่งบนดินก็ได้ลงน้ำกลายเป็นเรือก็ได้ นับว่าเป็นซาฟารีสะเทิ้นน้ำสะเทิ้นบกแห่งแรกของโลกที่มีสัตว์ต่างๆ กว่า 20 ชนิด มากถึง 100 กว่าตัวมาให้ชม
    Everland1
  • Magic Land – ดินแดนที่แต่งตามคอนเซ็ปนิทานอีสปชื่อดังที่สอดแทรกศีลธรรมและคติสอนใจให้กับเด็กๆ ผ่านตัวละครที่เป็นสัตว์น่ารักมากมาย โซนนี้มีเครื่องเล่นเหมาะกับเด็กๆ และครอบครัว
  • European Adventure – ใครชอบความตื่นเต้น โซนนี้คือที่ที่คุณรอคอย ท่ามกลางการตกแต่งอย่างสวยงามให้เหมือนหมู่บ้านทางแถบยุโรป โซนนี้มีไฮไลท์เป็นเจ้ารถไฟเหาะ T Express ที่เป็นรถไฟเหาะไม้ที่สูงที่สุดในโลกและมีความชันถึง 77 องศา วิ่งด้วยความเร็ว 104 กม. / ชั่วโมง นอกจากนี้ยังมีเครื่องเล่นอื่นๆ ที่เหมาะสำหรับทั้งเด็กและผู้ใหญ่ รวมถึงสวนดอกไม้ที่เปลี่ยนไปตามฤดูกาล ทั้ง สวนกุหลาบ หรือ สวนสี่ฤดู
    Everland8
    Everland4
    Everland10
    Everland3

ใครที่อยู่เล่นจนเย็น ตอนกลางคืนจะมี Moonlight Parade และ Dream of Laciun ซึ่งเป็นการแสดงแสงสี และเสียงประกอบดนตรี สวยงามตระการตามาก

Everland11

ที่อยู่: 310 Jeongdae-ri, Pogok-eup, Cheoin-gu, Yongin-si, Gyeonggi-do, Korea

วิธีเดินทางจากกรุงโซลด้วยตัวเอง:
MRT – Direct Express City Bus

  • ขึ้น MRT สาย 2 (SinBundang) มาลงที่สถานี Gangnam ทางออก 5, 6 หรือ 10 แล้วขึ้นรถบัสสาย 5002 หน้าร้าน Krispy Kreme

Everland bus_03

  • ขึ้น MRT สาย 2 หรือ สาย 6 มาลงที่สถานี Jamsil แล้วขึ้นรถบัสสาย 5700

Express Bus

Schedule 1: จาก Seoul City Hall
ขาไป จากโซล ไป เอเวอร์แลนด์
09.30น. จากสถานีรถไฟฟ้า Seoul City Hall (สถานี City Hall, รถไฟฟ้าสาย 1 หรือ 2) ทางออก 5

09.40น. จากสถานีรถไฟฟ้า Dongdaemun (หน้าสถานี Dondaemun History & Culture Park) รถไฟฟ้าสาย 2, 4 หรือ 5 ทางออก 11

ขากลับ จากเอเวอร์แลนด์ ไปโซล

18.00น. ออกจาก Everland Resort

19.10น. สิ้นสุดที่ City Hall
Schedule 2 จาก Samseong Station

09:30น. จากสถานี Samseong, ทางออก 5 (MRT สาย 2)
10:00น. จากสถานี Gangnam, ทางออก 5 (MRT สาย 2 -Bundang)
18:00น. ออกจาก Everland Resort

ค่าบริการรถบัสไปกลับ: 12,000 วอน
หมายเหตุ: สำรองที่นั่งล่วงหน้าที่ Daeseong Tour (โทร: +82 031 919 1244) เวลา 09.00 – 18.30น.  มีบริการภาษาอังกฤษและภาษาญี่ปุ่น


รถไฟฟ้าสาย Ever-Line
นั่งรถบัสเบอร์ 66 จากสถานี Suwon Station มาลงที่เมือง Yongin แล้วต่อรถไฟฟ้าสาย Ever-Line มาถึงสวนสนุก Everland
Everline_Train

เวลาเปิด-ปิดของสวนสนุก:

วันจันทร์ – วันศุกร์ 10.00 – 22.00น.

วันเสาร์ – วันอาทิตย์ และวันหยุดราชการ 09.30 – 22.00น.

ราคาตั๋ว

ประเภทตั๋ว/ ราคา ผู้ใหญ่ วัยรุ่น (13-18ปี) เด็ก (3-12 ปี), ผู้สูงอายุ
One-day Ticket 40,000 won 37,000 won 31,000 won
Night Ticket (เริ่ม 17.00น.) 33,000 won 28,000 won 25,000 won
Two-day Ticket 64,000 won 55,000 won 50,000 won

***คลิกที่ลิงค์เพื่อพิมพ์คูปองส่วนลดค่าเข้าชมได้ ซึ่งสามารถใช้ลดตั๋วได้ถึง 4 ใบ คลิกที่นี่เพื่อไปหน้าเวปไซด์ของสวนสนุกสำหรับพิมพ์คูปอง

หมายเหตุ: คูปองจะหน้าตาแบบนี้ แต่ให้คลิกไปที่ลิงค์ของสวนสนุกเพื่อพิมพ์ และแสดงพาสปอร์ตพร้อมคูปองก่อนชำระเงิน  คลิกที่นี่เพื่อไปหน้าเวปไซด์ของสวนสนุกสำหรับพิมพ์คูปอง

Everland Discount_Coupon
เวปไซด์:
www.everland.com/english

 

Tips:

  • พยายามหลีกเลี่ยงการมาเที่ยว Everland ในวันหยุดสุดสัปดาห์หรือช่วงวันหยุดยาวของเกาหลีเพราะคนจะเยอะมาก รถบัสจากกรุงโซลจะแน่นจนไม่มีที่นั่ง และเครื่องเล่นต่างๆ จะต้องรอคิวนาน
  • ควรจะมาแต่เช้าจะได้ไม่ต้องต่อคิวซื้อตั๋วและต่อคิวเครื่องเล่นนาน
หาตั๋วเครื่องบินราคาถููก ที่นี่

ชอบกด Like ใช่กด Share ^-^

ใกล้ตุลาคมของทุกปี นักท่องเที่ยวที่วางแผนจะมาเที่ยวเกาหลีต้องไม่พลาดข้ามไปดูใบไม้เปลี่ยนสีที่เกาะนามิ เพราะระหว่างปลายตุลาคมถึงต้นพฤศจิกายนนับว่าเป็นไฮไลท์ของเกาะแห่งนี้ที่ใครไปเยือนจะได้รูปถ่ายที่สวยงามมาก
nami12

nami1

เกาะนามิ (Namiseom) เป็นเกาะขนาดเล็กมีพื้นที่แค่ 460,000 ตารางเมตร ตัวเกาะเป็นรูปเหมือนใบไม้ลอยน้ำ ตั้งอยู่กลางทะเลสาบชองเพียง (Cheongpyeong Lake) ห่างจากกรุงโซลไป 63 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางเพียง 1 ชั่วโมง

เกาะแห่งนี้เป็นพื้นที่ราบ ไม่มีภูเขาเลยสักลูก ชื่อ “นามิ” ตั้งขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่นายพลนามิ ผู้นำชัยชนะอันยิ่งใหญ่จากการต่อสู้กับกองกำลังกบฏในพื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศด้วยวัยเพียง 26 ปี การปราบปรามครั้งนั้นเกิดขึ้นในปีที่ 13 ของกษัตริย์องค์ที่ 7 แห่งราชวงศ์โชซอน
nami10

เกาะนามินั้นเรียกตัวเองอย่างเก๋ไก๋ว่า Naminara Republic และเรียกตั๋วเรือข้ามฟากและตั๋วเข้าชมเกาะว่า Visa ทำให้นักท่องเที่ยวรู้สึกเสมือนข้ามมาเที่ยวรัฐๆ หนึ่งที่เป็นเอกเทศออกมาจากเกาหลี
nami3

บนเกาะจะมีบรรยากาศร่มรื่น เต็มไปด้วย ต้นสน ต้นเกาลัด ต้นแปะก๊วย ต้นซากุระ ต้นเมเปิ้ล และต้นไม้ดอกไม้อื่นๆ ที่พลัดกันออกดอกเปลี่ยนสีให้ชมกันทุกฤดูกาล ทั้งเกาะไม่มีเสาไปหรือสายไฟให้เห็นเลยซักต้นเพราะมันถูกฝั่งลงใต้ดินทั้งหมดเพื่อให้ไม่บดบังทัศนียภาพ

เกาะนามิกลายเป็นที่เที่ยวยอดฮิตของทั้งชาวเกาหลี ชาวต่างชาติ และชาวไทย หลังจากความโด่งดังของซีรีย์ Winter Love Song หรือ Winter Sonata หรือชื่อไทยว่า “เพลงรักในสายลมหนาว” ที่ใช้โลเกชั่นของเกาะนามิถ่ายทำ ทำให้มีนักท่องเที่ยวหลั่งไหลเข้ามาถ่ายรูป ณ จุดที่ใช้ถ่ายทำละคะเรื่องนี้แทบทุกวัน

 

nami7

nami8
นอกจากสีสันของใบไม้ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงแล้ว จุดถ่ายรูปหลักที่นักท่องเที่ยวต้องไม่พลาดคือ ทิวสนที่เรียงตัวสวยงามทอดยาวไปจนสุดลูกหูลูกตา และจุดมหาชนที่ทุกคนต้องไปถ่ายรูปคือรูปปั่นโลหะขนาดเท่าคนจริงของ เบยองจุน และ  แชงจีอู พระนางจากซีรีย์เพลงรักในสายลมหนาว และจุดที่มีสัญลักษณ์ซีรีย์ชุดนี้อยู่นั้นเอง

nami5

nami2

นอกจากนี้บนเกาะยังมีบริการจักรยานให้เช่า ร้านกาแฟ แกลเลอรี่ ร้านอาหาร ร้านสะดวกซื้อ และพิพิธภัรฑ์อีกด้วย

คำเตือน: ให้หลีกเลี่ยงการมาเที่ยวช่วงสุดสัปดาห์ เพราะคนจะแน่นมาก รถไฟไม่มีที่นั่ง แท็กซี่ขาดแคลนและคิวยาวมาก และค่าแท็กซี่จะราคาแพงกว่าปกติ

คำแนะนำ: หลังจากเที่ยวเกาะนามิเสร็จแล้ว นักท่องเที่ยวอาจจะขึ้นแท็กซี่ต่อจากที่ท่าเรือไปเที่ยว หมู่บ้านเจ้าชายน้อย (Petite France) ต่อได้ ค่าแท็กซี่ประมาณ 18,000 วอน ใช้เวลาประมาณไม่เกิน 30 นาที

วิธีเดินทาง: จากในกรุงโซล ขึ้น MRT สาย 7 ( สาย Jungang) มาที่สถานี Sangbong แล้วเปลี่ยนมาขึ้นรถไฟสาย Gyeongchun มาลงที่สถานี Gapyeong จากนั้นนั่งรถแท็กซี่ไปยังท่าเรือเกาะนามิ (ค่าแท็กซี่ประมาณ 2,700 – 3,200 วอน แล้วแต่สภาพจราจร) หรือนั่งรถบัส คนละ 1,100 วอนก็ได้ แต่ต้องรอนานหน่อย แล้วต่อเรือข้ามฟากไปยังเกาะ

เรือข้ามฟาก: เรือข้ามฟากให้บริการทุกวัน เรือเที่ยวแรกออกเวลา 07.30น. เรือเที่ยวสุดท้าย ออกจากเกาะนามิเวลา 21.45น. จะมีเรือออกทุกๆ 30 นาที
nami6

ค่าบริการเข้าชมเกาะรวมค่าเรือข้ามฟากไป-กลับ: 8,000 วอน

เวปไซด์: www.namisum.com

Myeong-dong2
เมียงดง หรือ มยองดง เป็นแหล่งช็อปปิ้งแฟชั่นและเครื่องสำอางในฝันของนักท่องเที่ยวไทยที่พากันมาช็อปและซื้อของฝากจากเกาหลีก่อนกลับบ้านกันทุกคน นอกจากเครื่องสำอางเกาหลียอดฮิตทั้งหลาย แฟชั่นที่นี่ถือว่าโด่งดังไม่แพ้กัน
Teenie_Weenie_store_Myeong-dong

ร้านเสื้อผ้าและรองเท้าเด่นๆ ในเมียงดง ที่เป็นแบรนด์เกาหลีหาซื้อในเมืองไทยไม่ได้ ก็มี เช่น  Teenie Weenie, Bean Pole, Kosney, SPAO และอื่นๆ

myeongdong-1
ส่วนแบรนด์ต่างประเทศที่เราคุ้นเคย เช่น Uniqlo, Zara, H&M, Forever 21, Gap, Mango ก็มีให้ช็อปเหมือนกัน

ร้านรองเท้ายี่ห้อเกาหลีที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากเช่น ABC Mart  ที่ขายรองเท้าใส่เล่นเก๋ๆ ก็มีที่เมียงดงแห่งนี้ รวมถึงแบรนด์ชั้นนำอื่นๆ เช่น Adidad, Nike, New Balance, Crocs ฯลฯ

seoul myeongdong map

เวลาเปิดปิดของร้านค้าต่างๆ:  10.30 – 22.00 น. ทุกวัน

วิธีเดินทาง: MRT สาย 4 (สายสีฟ้า) มาที่สถานี Myeongdong exit 6

แผนที่บอกพิกัดร้านค้าต่างๆ อย่างละเอียด
myeondong-map

 

ในโลกนี้มีพิพิธภัณฑ์แห่งชาติกี่แห่งกันที่เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมฟรี หนึ่งในนั้นคือ The National Palace Museum of Korea หรือ พิพิธภัณฑ์พระราชวังแห่งชาติเกาหลี ที่ใจกลางกรุงโซล

The National Palace Museum of Korea 3

พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ตั้งอยู่ในบริเวณพระราชวังคยองบก อยู่ทางตอนใต้ของประตู Heungnyemun ถ้าหันหน้าเข้าประตู พิพิธภัณฑ์จะอยู่ทางซ้ายมือ โดยจะมีรวบรวมศิลปวัตถุกว่า 40,000 ชิ้น ทั้งจากพระราชวังคยองบก พระราชวังชางถ็อก พระราชวังชางคยอง และศาสนาสถานชงมโย

นักท่องเที่ยวที่สนใจวัฒนธรรมเกาหลีสมัยราชวงศ์โชซอน หรือที่เราคุ้นตาจากละครจักรๆ วงศ์เกาหลี ชื่อดังทั้งหลาย ตั้งแต่แดจังกึม เป็นต้นมา สามารถมาดูข้าวของประวัติศาสตร์ วิถีชีวิต เครื่องใช้ไม้สอย พาหนะ เครื่องประดับ เครื่องแต่งกาย และทรัพย์สมบัติอื่นๆ ของราชวงศ์โชซอนได้

The National Palace Museum of Korea 2

ในพิพิธภัณฑ์นั้นจะแบ่งเป็น 3 ส่วน ตามนี้

โซน ชั้น B1: จะเป็นโซนแสดงภาพวาดของพระราชฐาน เครื่องดลตรี และเครื่องใช้ในพระราชพิธีต่างๆ รวมถึงศิลปะการจัดขบวนราชพิธี  ไฮไลท์จะอยู่ที่นาฬิกาน้ำที่เรียกว่า “Jagyeokru” ที่ถูกประดิษฐ์ขึ้นครั้งแรกสมัยกษัตริย์เซจง (King Sejong) โดย Jang Yeongsil ที่ถือเป็นนาฬิกาแบบอัตโนมัติเรือนแรกของเกาหลี นอกจากนั้นยังมีสิ่งประดิษฐ์อื่นๆ ที่จำลองมาจากของจริงสมัยโชซอนอีกด้วย

The National Palace Museum of Korea 6

โซน ชั้นที่ 1: จะแสดงเรื่องราวการประสูติและการศึกษาของเชื้อพระวงศ์ในพระราชวังหลวง รวมถึงมีของสะสมงานพระราชนิพนธ์และศิลปวัตถุของจักรวรรดิเกาหลีที่มีรถยนต์พระที่นั่งโบราณที่กษัตริย์ซุนจง (King Sunjong) และพระมเหสีเคยใช้ มีทั้งรถลิมูซีน Cadillace ปี ค.ศ. 1918 และ รถยนต์โบราณจากปี ค.ศ. 1914 ซึ่งถือเป็นคอเลกชั่นที่สวยงามและหาดูได้ยาก ใครรักรถเก่าไม่ควรพลาดโซนนี้เด็ดขาด

The National Palace Museum of Korea 7

โซน ชั้นที่ 2: โซนนี้จะเป็นโซนที่ได้รับความสนใจมากที่สุด เพราะจะแสดงวิถีชาววัง สัญลักษณ์ของราชวงศ์ ประวัติศาสตร์ ชีวิตในราชสำนัก พระราชพิธี พิธีกรรมต่างๆ สถาปัตยกรรม วิทยาศาสตร์ เครื่องแต่งกายของราชวงศ์ เครื่องประดับที่ใช้ในชีวิตประจำวันของราชวงศ์โชซอน

The National Palace Museum of Korea 4

ที่อยู่: 161 Sajik-ro (1-57 Sejongno), Jongno-gu, Seoul

วิธีเดินทาง: Gyeongbokgung MRT Station (สาย 3) ทางออก 5 แล้วเดินต่ออีก 2 นาที

หรือ Gwanghwamun MRT Station (สาย 5) ทางออก 2 แล้วเดินต่ออีก 5 นาที

The National Palace Museum of Korea 5

เวลาเปิดปิด: วันอังคาร – วันศุกร์ เวลา 09.00 – 18.00น. / วันเสาร์ – วันอาทิตย์ และวันหยุดราชการ เวลา 0.99 -19.00น. (ปิดทุกวันจันทร์)

เข้าชมฟรี

บริการไกด์ทัวร์ภาษาอังกฤษ เวลา 11.00น. และ 14.30น. ติดต่อบริการทัวร์ที่ Information Desk ที่ชั้น 2

Website: www.gogung.go.kr

 

Gwanghwamun_square_L1_0122

อีกหนึ่งที่ถ่ายรูปที่นักท่องเที่ยวในเกาหลีไม่ควรพลาดคือจัตุรัสควางฮวามุน (Gwanghwamun Square) ที่ใจกลางกรุงโซล เป็นจุดที่เด่นในด้านทัศนียภาพเพราะมีฉากหลังเป็นพระราชวังคยองบก (Gyeongbokgung), ประตูควางฮวามุน (Gwangwamun), จัตุรัสชองกเย (Cheonggye Square), และภูเขาบุกอัก (Bukaksan)

จัตุรัสควางฮวามุนเริ่มต้นจากประตูควางฮวามุน ที่เป็นประตูหลักขอพระราชวังคยองบก มุ่งตรงไปยังสี่แยกเซจงโน (Sejongno Sageori) อันเป็นสถานที่ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานถึง 600 ปี

ด้านในแบ่งออกเป็น 6 ส่วน ดังนี้

  1. Recovering the History of Gwanghwamun Gate Plaza – ตั้งอยู่ตรงทางเข้าของพลาซ่ามีพื้นหินที่เรียกว่า Woldae และรูปปั้นของ Haechi เป็นตัวยูนิคอร์นผสมสิงโตในตำนานที่เชื่อกันว่าสามารถปกป้องพระราชวังจากไฟไหม้ได้ อีกทั้งยังถูกเลือกให้เป็นสัญลักษณ์ของกรุงโซลในปี 2008
  2. Reenacting Yukjo Street Plaza – อยู่ใกล้กับสวน Sejong-ro ซึ่งถนน Yukjo ครั้งหนึ่งเคยเป็นถนนหลักของกรุงโซล
  3. Korea Main Plaza – ตรงจุดที่มีอนุสาวรีย์ของกษัตริย์เซจงมหาราช แห่งราชวงศ์โชซอน
    Gwanghwamun Square2
  4. Civil Participation Urban Culture Plaza – ตั้งอยู่ระหว่างอนุสาวรีย์พลเรือเอก Yi Sun-Shin และ Sejong Center for the Performing Arts จุดนี้จะมีโถงนิทรรศการ หอศิลป์ และ Rendezvous Plaza
  5. Downtown Plaza – ตั้งอยู่ใกล้กับอนุสาวรีย์พลเรือเอก Yi Sun-Shin ผู้บัญชาการทหารเรือผู้นำชัยชนะมาสู่เกาหลีในช่วงญี่ปุ่นรุกราน ระหว่างปี ค.ศ. 1592 – 1598 ตรงนี้นับว่าเป็นสัญลักษณ์ของถนน Sejong-ro มีบ่อน้ำและน้ำพุ 12*23 อยู่ด้วย
    น้ำพุ 12*23 (12*23 Fountain) ประติมากรรมของ Haetae ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของกรุงโซล ชื่อของน้ำพุนั้นมาจากการที่ได้รับเอกราชครั้งยิ่งใหญ่ของเกาหลีในปี ค.ศ. 1597 เมื่อพลเรือเอก Yi Sun-Shin ใช้เรือ 12 ลำ รบชนะกองทัพเรือญี่ปุ่นที่มีมากถึง 133 ลำ อีกทั้งยังต่อสู่ในสงครามอีก 23 ครั้งโดยไม่เคยพ่ายแพ้เลยGwanghwamun Square1
  6. Cheonggyecheon Stream Connector – เป็นทางเดินเชื่อมระหว่างคลองชองกเยและพระราชวังคยองบก  เรียกว่าเป็น Memorial Waterway หรือ Yeoksamulgil ทางน้ำแห่งประวัติศาสตร์ เป็นทางน้ำใต้ดินไหลจากพระราชวังคยองบกและสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินควางฮวามุนไปยังคลองชองกเย บอกเล่าประวัติศาสตร์ของเกาหลีตั้งแต่ปี ค.ศ. 1392 เมื่อครั้งที่ราชวงศ์โชซอนได้รับการสถาปนาขึ้นจนถึงปี ค.ศ. 2006

วิธีเดินทาง: Gwanghwamun MRT Station (สาย 5) ทางออก 2 แล้วเดินต่ออีก 3 นาที

เวลาเปิดปิด: ทุกวัน 24 ชั่วโมง

เข้าชมฟรี

ประตูควางฮวามุน เป็นเหมือนสัญลักษณ์หนึ่งของกรุงโซลและประเทศเกาหลีใต้ เพราะเป็นประตูหลักและใหญ่ที่สุดของพระราชวังคยองบกที่เป็นพระราชวังหลวงหลักที่ใหญ่และสำคัญที่สุด

Gwanghwamun1
Gwanghwamun23

ประตูควางฮวามุนเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์สำคัญทางประวัติศาสตร์อันยาวนานของกรุงโซลซึ่งเป็นเมืองหลวงมาตั้งแต่สมัยราชวงศ์โชซอน (Joseon Dynasty) ชื่อประตูควางฮวามุนก็มีความหมายลึกซึ้งว่า “ขอให้แสงแห่งความสว่างปกคลุมโลก”

ปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์โชซอนสร้างประตูนี้ขึ้นด้วยหินแกรนนิตทับบนโครางสร้างไม้ ในปี ค.ศ. 1395 จุดศูนย์กลางของประตูมีลักษณะโค้งคล้ายสายรุ้ง ด้านบนประตูจะเป็นหอคอย

ประตูแห่งนี้เก็บความทรงจำที่เจ็บปวดในช่วงสงครามไว้ให้ลูกหลานและนักท่องเที่ยวมาระลึกถึงอยู่เสมอ

เมื่อครั้งเกาหลีถูกญี่ปุ่นยึดครองในปี ค.ศ. 1592 ประตูควางฮวามุนถูกไฟไหม้เสียหายทั้งหมดเหลือเพียงซากปรักหักพังนานกว่า 250 ปี ท่ามกลางซากศพของชาวเกาหลีจำนวนมากที่ล้มตาย ก่อนจะถูกบูรณะในปี ค.ศ. 1867 ในรัชสมัยของจักรพรรคฃดิโกจง (Emperor Gojong)

และในปี ค.ศ. 1926 รัฐบาลญี่ปุ่นสั่งแยกชิ้นส่วนของประตูแล้วย้ายไปตั้งยังทิศตะวันออกเฉียงใต้ของพิพิธภัณฑ์พื้นบ้านแห่งชาติเกาหลีเพราะต้องการใช้ที่ตรงนี้สร้างอาคารให้กับผู้สำเร็จราชการของตัวเอง

Gwanghwamun2

ช่วงสงครามเกาหลี โครางสร้างไม้ที่ไม่แข็งแรงของประตูควางฮวามุนก็ถูกทำลายจนหมดสิ้นเหลือเพียงฐานหิน ในสภาพทรุดโทรม ก่อนจะถูกบูรณะขึ้นมาอีกครั้งในสมัยของประธานาธิบดี ปาร์ค ชุง-ฮี (President Park Chung-hee) ในปะ ค.ศ.  1963 แต่ยังคงใช้วัสดุไม้เหมือนเดิม

ประตูควางฮวามุนได้รับการบูรณะครั้งใหญ่ ในปี ค.ศ. 2006 เป็นการบูรณะที่คืนความถูกต้องทางประวัติศาสตร์ให้กับประตูสำคัญแห่งนี้  โดยอาศัยหลักฐานจากพิมพ์เขียวที่เก็บไว้ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1925 มีการทำป้ายชื่อขึ้นมาใหม่โดยอิงจากภาพถ่ายเก่าแกนับศตวรรษ และเขียนด้วยตัวอักษร Hanja หรือ อักษรเกาหลีโบราณ ไม้สนที่นำมาใช้ในการบูรณะครั้งนั้นถูกคัดสรรมาอย่างดีจากในประเทศเกาหลีเอง เพราะการนำเข้าไม้จากต่างประเทศมาสร้างอาคารทางประวัติศาสตร์ถือเป็นสิ่งต้องห้าม

Gwanghwamun4

งานสีและลวดลายเกาหลีดั่งเดิมถูกรังสรรค์ขึ้นมาใหม่ แล้วมีการย้ายประตูแห่งนี้กลับมาตั้งยังตำแหน่งเดิมซึ่งเป็นแนวเดียวกับแกนเหนือ ใต้ของพระราชวังคยองบก

การบูรณะครั้งนี้แล้วเสร็จจนเปิดให้ประชาชนเข้าชมได้ในวันที่ 15 สิงหาคม ค.ศ. 2010 และใช้งบประมาณในการบูรณะทั้งสิ้นถึง 28 พันล้านวอน

Gwanghwamun_royal_guards

ภาพทหารหลวงในเครื่องแบบโบราณเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ที่นักท่องเที่ยวชื่นชอบเมื่อมาเยือนประตูแห่งนี้

วิธีเดินทาง: Gyeongbokgung MRT Station (สาย 3) ทางออก 5 แล้วเดินต่ออีก 4 นาที
Gwanghwamun MRT Station (สาย 5) ทางออก 2 แล้วเดินต่ออีก 5 นาที

เวลาเปิดปิด: ทุกวัน 24 ชั่วโมง

เข้าชมฟรี

เชื่อว่านักท่องเที่ยวที่มาเกาหลีร้อยทั้งร้อยอยากจะมาช็อปปิ้งที่ “เมียงดง” (Myeong-dong) สักวันสองวัน อาจจะมีลิสต์รายการเครื่องสำอางเกาหลีต้องซื้อกลับไปใช้ หรือกลับไปฝากยาวเหยียดติดมาด้วย

Myeongdong

 

ย่านเมียงดง เป็นเหมือนสยามสแควร์ของกรุงโซล เป็นมหานครแห่งแฟชั่นและย่านช็อปปิ้งหลักเลยก็ว่าได้ มีทั้งชาวเกาหลีเองและนักท่องเที่ยวหลั่งไหลกันมาซื้อของตั้งแต่ร้านเปิดยันร้านปิดทุกๆ วัน อีกทั้งรัฐบาลเกาหลียังได้ตั้งย่านเมียงดงเป็นพื้นที่พิเศษเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว ตั้งแต่ปี 2000 และเป็นจุดหยุดรถ Seoul City Bus Tour ที่สำคัญจุดหนึ่งอีกด้วย

Myeong-dong1 Myeong-dong2

สินค้าและร้านค้าในย่านนี้มีตั้งแต่ถูกไปจนถึงแบรนด์เนมของเกาหลีและแบรนด์นำเข้าจากต่างประเทศ มีทั้งเสื้อผ้าแฟชั่นเกาหลี กระเป๋า รองเท้า เครื่องประดับ ไปจนถึงเครื่องสำอางเกาหลียอดฮิตสำหรับสาวๆ โดยเฉพาะแบรนด์ดังของเกาหลีที่เป็นที่ชื่นชอบของสาวไทยหลายๆ คน ก็มีร้านอยู่ที่นี่ทุกยี่ห้อ อาทิเช่น The Face Shop, Missha, Etude, Skin Food, Nature Republic และอื่นๆ

myeondong2-jpg

ห้างที่โด่งดังประจำย่านก็มี Lotte Department Store, Migliore, M Plaza, Noon Square และ Shinsegae Department Store

seoul myeongdong map

เวลาเปิดปิดของร้านค้าต่างๆ:  10.30 – 22.00 น. ทุกวัน

วิธีเดินทาง: MRT สาย 4 (สายสีฟ้า) มาที่สถานี Myeongdong exit 6